อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว: เที่ยวครบ จุดชมวิวภูค้อ–ถ้ำผาหงษ์–น้ำตกเหวทราย (แพลน 2 วัน 1 คืน)
ถ้าคุณอยากหนีงาน/หนีเมืองแบบไม่ต้องลางานหลายวัน แต่ยังอยากได้ฟีล “ภูเขา อากาศเย็น วิวอลัง น้ำตกฉ่ำ ๆ และมีจุดให้แวะถ่ายรูปแบบรัวชัตเตอร์” — อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว คือคำตอบที่คนค้นหาบ่อยมาก โดยเฉพาะคีย์อย่าง น้ำหนาว เพชรบูรณ์, กางเต็นท์ น้ำหนาว, จุดชมวิวภูค้อ, ถ้ำผาหงษ์, และ น้ำตกเหวทราย
บทความนี้ funtrip สรุปให้แบบอ่านง่าย สนุก และวางแผนตามได้จริง: ไปช่วงไหนดี? ไปจุดไหนก่อน? ถ่ายรูปมุมไหนปัง? ไปแบบ 1 วันหรือ 2 วัน 1 คืนคุ้มสุด?
สรุปไว ๆ ก่อนออกเดินทาง
เหมาะกับ: วัยรุ่น/คนทำงานที่อยากเที่ยวธรรมชาติแบบ “ไม่โหด” แต่ได้ครบ
ไฮไลต์: จุดชมวิวภูค้อ (พระอาทิตย์ขึ้น) + ถ้ำผาหงษ์ (พระอาทิตย์ตก) + น้ำตกเหวทราย
สไตล์ทริป: Road trip แวะเป็นจุด ๆ ได้ / จะค้างกางเต็นท์ก็ฟิน
ไฮไลต์ห้ามพลาดในอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว
1) จุดชมวิวภูค้อ (Phu Kho Sunrise Viewpoint) — สายตื่นเช้าต้องมา
ถ้าชอบตื่นมาดูแสงแรกแบบ “ขอบฟ้าค่อย ๆ ไล่สี” จุดนี้คือ MVP ของทริป
ทริคให้ได้ภาพสวย
-
ไปก่อนพระอาทิตย์ขึ้นสัก 20–30 นาที
-
เตรียมเสื้อกันลม เพราะเช้าตรู่ลมแรงกว่าที่คิด
-
มุมเด็ด: ถ่ายให้เห็นแนวภูเขาซ้อนชั้น + คนยืนเป็นซิลูเอต
2) จุดชมวิวถ้ำผาหงษ์ — แสงเย็นคือที่สุด + ได้เดินเข้าถ้ำเบา ๆ
ถ้าเช้าเรายกให้ “ภูค้อ” ตอนเย็นยกให้ “ถ้ำผาหงษ์”
เดินเข้าไปไม่ยาก ได้ทั้งฟีลถ้ำและมุมชมพระอาทิตย์ตก
แนะนำ: พกไฟฉาย/ไฟคาดหัว เผื่อเดินตอนแสงเริ่มน้อย

3) น้ำตกเหวทราย — ตัวท็อปสายเล่นน้ำ/ถ่ายน้ำตก
เป็นน้ำตกที่หลายคนปักหมุดมาเพื่อ “เสียงน้ำ + ความอลัง + ความฉ่ำ”
เหมาะมากช่วงปลายฝนต้นหนาว น้ำเยอะ ถ่ายรูปสวย
ทริค: ใส่รองเท้ากันลื่นไว้ก่อน ชีวิตง่ายขึ้น 300%
4) น้ำตกทรายทอง — จุดพักใจ นั่งชิล ฟังเสียงน้ำ
ถ้าเหวทรายคืออลัง น้ำตกทรายทองคือ “น่ารักและร่มรื่น”
เหมาะกับการพัก กินขนม ถ่ายรูปเบา ๆ ไม่เร่งรีบ
5) ถ้ำใหญ่น้ำหนาว — สายถ้ำต้องลอง
ถ้ำใหญ่จริง สมชื่อ เหมาะกับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากวิวเป็นโลกใต้ดิน
ข้อควรรู้: ถ้ำมืดและลื่นบางจุด ควรไปตามคำแนะนำเจ้าหน้าที่/เวลาเปิด-ปิด
6) สวนสนดงแปก — เดินเล่นฟีลป่าสน ถ่ายรูปสบายตา
ใครอยากได้ภาพโทนเขียว ๆ เท่ ๆ ฟีลเหมือนหลุดไปอีกประเทศ ลองแวะจุดนี้

ไปเดือนไหนดี? เลือกฤดูให้ตรงสไตล์คุณ
-
ปลายฝน–ต้นหนาว: ป่าเขียว น้ำตกสวย อากาศเริ่มเย็น ถ่ายรูปปัง
-
หน้าหนาว: อากาศเย็นจัดช่วงเช้า/ดึก เหมาะกับจุดชมวิวและการกางเต็นท์
-
หน้าร้อน: คนมักน้อยกว่า แต่ควรเที่ยวช่วงเช้า–เย็น เลี่ยงแดดแรง
หมายเหตุ: ค่าธรรมเนียม/เวลาเปิด-ปิด/จุดท่องเที่ยวบางจุดอาจเปลี่ยนตามฤดูกาล แนะนำเช็กประกาศล่าสุดของอุทยานก่อนออกเดินทาง
แพลนเที่ยวแบบทำตามได้จริง
แพลน 1 วัน (เหมาะกับคนมีเวลาน้อย)
-
เช้า: จุดชมวิวภูค้อ (รับแสงแรก)
-
สาย–บ่าย: น้ำตกเหวทราย + น้ำตกทรายทอง
-
เย็น: ถ้ำผาหงษ์ (เก็บแสงทองก่อนกลับ)
แพลน 2 วัน 1 คืน (สูตรสนุกสุดสำหรับ “กางเต็นท์ น้ำหนาว”)
Day 1
-
บ่าย: เข้าอุทยานฯ / ตั้งแคมป์ / พักให้หายเหนื่อย
-
เย็น: ไปถ้ำผาหงษ์ดูพระอาทิตย์ตก
-
กลางคืน: ชิลหน้าลาน แนะนำใส่เสื้อหนา ๆ + ถุงนอนอุ่น ๆ
Day 2
-
เช้ามืด: ภูค้อดูพระอาทิตย์ขึ้น
-
สาย: เก็บเต็นท์ แล้วไปน้ำตกก่อนกลับ (คุ้มแบบไม่เหนื่อยเกิน)
กางเต็นท์น้ำหนาว: มือใหม่ก็รอด (เช็กลิสต์เอาตัวรอดแบบสนุก)
ของจำเป็น
-
เสื้อกันหนาว/กันลม + ถุงนอนอุ่น
-
ไฟฉายหรือไฟคาดหัว (สำคัญมากตอนกลางคืน)
-
รองเท้าเดินป่าหรือรองเท้ากันลื่น
-
Power bank + ถุงกันน้ำ
-
ถุงขยะ (เก็บกลับให้หมด = เท่สุด)
ทริคให้แคมป์สบาย
-
เลือกจุดกางไม่ต่ำกว่าพื้นมาก (กันน้ำไหลเวลาฝนมา)
-
อย่าลืมเสื้อสำรอง เพราะกลางคืนอากาศเปลี่ยนเร็ว
-
ถ้าพกเตาปิ้งย่าง เช็กกฎพื้นที่ก่อนเสมอ

ข้อควรรู้ + มารยาทนักท่องเที่ยว (เที่ยวให้สนุกและไม่พังธรรมชาติ)
-
เดินตามเส้นทางที่กำหนด โดยเฉพาะบริเวณถ้ำ/น้ำตก
-
ไม่ให้อาหารสัตว์ป่า และไม่ทิ้งเศษอาหาร
-
อย่าลืม “เสียงเบา” ช่วงกลางคืน คนอื่นอยากนอน 😄
-
ถ่ายรูปให้ปังได้ แต่อย่าปีนป่ายจุดอันตราย
ปิดท้ายแบบ funtrip
อุทยานแห่งชาติน้ำหนาวเป็นทริปที่ “คุ้ม” มากสำหรับคนทำงานและวัยรุ่น เพราะได้ครบทั้ง วิวเช้า ภูเขาซ้อน น้ำตกฉ่ำ จุดดูพระอาทิตย์ตก และมีโหมดกางเต็นท์ จะไป 1 วันก็ได้ หรือจะจัด 2 วัน 1 คืนก็ยิ่งฟิน
ถ้าคุณชอบสไตล์ทริปแบบนี้
ลองเข้าอ่านต่อใน funtrip หมวด ที่เที่ยวหน้าหนาว / แคมป์ปิ้ง / เที่ยวเพชรบูรณ์ แล้วคอมเมนต์บอกหน่อยว่า “คุณทีมภูค้อ (ตื่นเช้า) หรือทีมถ้ำผาหงษ์ (แสงเย็น)?” 😉




